Wednesday, April 29, 2020
Tuesday, April 28, 2020
BeautyDIY - หน้าสดอย่างไร ให้ผิวสวย สไตล์ Work From Home - B2G
ช่วงนี้หลายคนต้องกักตัว Work from home ทำให้ปล่อยปะละเลยผิวและใบหน้า เพราะคิดว่าไม่มีใครเห็นหน้าของเราซะหน่อย จะแต่งหน้าหรือไม่แต่งหน้าก็ไม่มีผลอะไร ที่ไหนได้มี VDO conference call ด่วนเข้ามา ต้องจำใจโชว์หน้าสดต่อหน้าสาธารณะชนแบบโทรม ๆ เพราะไม่ได้เตรียมความพร้อมไว้ล่วงหน้า เพื่อนร่วมงานอาจตกใจและเอาไปเม้าท์มอยได้ ซึ่งปัญหานี้ทำให้เพื่อน ๆ หลายคนหนักใจอยู่ใช่ไหมคะ
จริงอยู่ การทำงานจากที่บ้าน หรือ Work from home ไม่จำเป็นต้องคัดเบ้าให้เป๊ะ แต่ก็ไม่จำเป็นต้องหน้าศพจริงไหมคะ แม้เหตุการณ์หลายอย่างที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ทำให้เพื่อน ๆ หลายคนมีความเครียดสะสม วิตกและกังวล จนทำให้เป็นสิว ผิวแห้งกร้าน ร้านเสริมสวยปิด แต่ผู้หญิงอย่างเราจะหยุดสวยก็ไม่ได้จริงไหมคะ
ดังนั้นพวกตัวเองควรดูแลผิวหน้าให้ดูดีอยู่เสมอ แม้เราจะ work from home แต่ปัญหาคือช่วงนี้กักตัว จะเอาวัตถุดิบที่ไหนมาทำสวย? เงินก็ต้องเก็บไว้ใช้ยามจำเป็น จะห่วงทำสวยไปทำไม?
วันนี้น้ำมีวิธีสครับหน้าแบบอ่อนโยนมาให้เพื่อน ๆ ได้ลองเอาไปทำดู สามารถทำได้เองจากที่บ้านโดยใช้วัตถุดิบที่มีอยู่ในครัวเพียงไม่กี่อย่างค่ะ พร้อมแล้วเริ่มกันเลยนะคะ
สิ่งที่ต้องมี
- แป้งข้าวจ้าว/แป้งข้าวเหนียว/แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ (ใช้แป้งอะไรก็ได้ค่ะ ทั้ง 3 อย่างคุณสมบัติใกล้เคียงกันค่ะ)
- กะทิผง 1 ช้อนชา (หากไม่มีใช้น้ำกะทิกล่อง โดยใช้แทนน้ำเปล่าค่ะ)
- น้ำเปล่านิดหน่อย
วิธีทำ
- ผสมทุกอย่างให้เข้ากันให้มีลักษณะข้นเหนียว พักไว้ก่อน
- ล้างหน้าให้สะอาด ซับให้แห้ง
- แต้มสครับที่ผสมไว้ให้ทั่วใบหน้าแล้วนวดวนเบา ๆ เป็นวงกลมให้ทั่วประมาณ 5 นาที
- พอกทิ้งไว้ 15 นาที ครบกำหนดเวลาแล้วล้างออก
- ก่อนล้างให้ใช้น้ำพรมบนใบหน้าให้ทั่วแล้วใช้ปลายนิ้วมือนวดวนเบา ๆ แล้วล้างออกด้วยน้ำให้สะอาด
หลังทำผิวจะเนียนนุ่มขึ้น กระจ่างใสขึ้น ผิวตึงกระชับ เมื่อทำเป็นประจำจะทำให้ริ้วรอยตื้นขึ้น จุดด่างดำจางลง ผิวขาวขึ้น และผิวดูเด็กลง
คุณสมบัติของแป้งข้าวจ้าว/แป้งข้าวโพด/แป้งข้าวเหนียว ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดออกอย่างอ่อนโยน และทำให้ผิวเต่งตึงกระชับ
คุณสมบัติของกะทิ ช่วยเติมความคุ้มชื้นให้ผิว ช่วยผลัดเซลล์ผิว จึงทำให้ผิวให้ผิวเนียนนุ่มขึ้น
อย่าลืมทดสอบการแพ้ก่อนทำ โดยทาสครับที่ผสมเรียบร้อยแล้วบริเวณผิวที่บอบบาง เช่น ใต้คาง หรือใต้ท้องแขนทิ้งไว้ 1-2 ชม. หากมีผื่นคันไม่ต้องทำนะคะ น้ำมีหลายสูตรค่ะ
วัตถุดิบหาง่าย ไม่ยุ่งยาก และสูตรนี้สามารถทำได้ทุกวันค่ะ เมื่อทำแล้วอย่าลืมทาครีมกันแดดเป็นประจำแม้เราไม่ได้ออกไปไหนนะคะ เพียงเท่านี้เราก็มีผิวสวย โดยไม่ต้องพึ่ง Application ใด ๆ แล้วเจอกันใหม่กับบทความหน้าถัดไปนะคะ
ภาพ / เรื่อง โดย #AquaLady
Sunday, April 26, 2020
BeautyDIY - รวมสูตรผิวสวยด้วยสมุนไพร EP.1 - B2G
บทความนี้น้ำอยากทำเป็นซีรีส์สมุนไพรไทยที่ใช้แล้วผิวสวยมาฝากพวกตัวเอง น้ำเชื่อว่าสมุนไพรไทยหลายอย่าง มีคุณประโยชน์ดี ๆ มากมาย น้ำจึงอยากรวบรวมสรรพคุณของสมุนไพรเหล่านั้นไว้ ให้คนที่สนใจ (แบบพวกตัวเอง) เข้ามาดู แล้วนำสมุนไพรเหล่านั้นมาช่วยให้สวยขึ้น ดูดีขึ้น มาค่ะ มาดูกันว่า EP 1 เป็นสมุนไพรอะไร
EP1 ขอเริ่มด้วย “มะขาม” ค่ะ มะขามมีรสเปรี้ยว ย่อมมีวิตามินซีสูง ดังนั้นสรรพคุณเด่น ๆ ของมะขามจึงช่วยผลัดเซลล์ผิว ลดจุดด่างดำ ฝ้า กระ ทำให้ผิวขาว เนียน กระจ่างใส เมื่อเรานำน้ำมะขามเปียกมาเป็นส่วนผสมของ Mask หรือ Scrub ค่ะ
หากเราทานเนื้อมะขามจะช่วยให้ร่างกายสร้างสารต้านอนุมูลอิสระ หรือช่วยชะลอความแก่ บำรุงฟัน บำรุงกระดูก และช่วยบำรุงสายตาด้วยค่ะ
วันนี้น้ำขอแนะนำสูตร Beauty DIY ฉบับ B2G ให้เพื่อน ๆ นำไปลองทำกันค่ะ
สิ่งที่ต้องใช้
- น้ำมะขามเปียก ลักษณะข้น ไม่เหลวมาก
วิธีทำ
- สระผมให้สะอาด
- นำน้ำมะขามเปียกนวดศรีษะทิ้งไว้ 30 นาที แล้วล้างออก
2 สูตรขจัดคราบฟันจากกาแฟและบุหรี่
สิ่งที่ต้องใช้
- เนื้อมะขามเปียก
วิธีทำ
- นำเนื้อมะขามเปียกขัดถูฟันทุกครั้งก่อนแปรงฟัน
- ช่วยขจัดคราบสกปรก คราบเหลืองจากบุหรี่และชากาแฟออกจากฟันได้ค่ะ
3 สูตรพอกหน้าผิวขาวใส
สิ่งที่ต้องใช้
- มะขามเปียก
- นมสดรสจืด
วิธีทำ
- นำนมสดไปต้มให้พออุ่น ไม่ต้องร้อนมากเดี๋ยวไขมันในนมแตกตัว
- นำมะขามเปียกแช่ในนมอุ่นให้ท่วม แช่ทิ้งไว้ 30 นาที แล้วใช้มือบีบเอากากใยและเม็ดออก เหลือแต่เนื้อลักษณะข้นๆ
- นำเนื้อมะขามเปียกที่ได้มาพอกหน้าทิ้งไว้ 15 นาทีแล้วล้างออก
สูตรพอกหน้านี้ช่วยผลัดเซลล์ผิว ให้ผิวที่หมองคล้ำกลับมาขาวใส นุ่มนวลขึ้น ควรทำอาทิตย์ละ 2 ครั้ง
4 สูตรพอกหน้า ช่วยให้ผิวสะอาด ผิวกระชับ ผิวขาวใส
สิ่งที่ต้องใช้
- น้ำมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ
- ดินสอพอง 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
- นำส่วนผสมทั้ง 2 อย่างมาผสมให้เข้ากัน
- นำมาพอกหน้าประมาณ 15 นาทีแล้วล้างออก
สูตรพอกหน้านี้ช่วยให้ผิวสะอาด เพราะดินสอพองช่วยทำความสะอาดผิว มะขามมีวิตามินซีสูง จึงช่วยผิวขาวใส ผิวเนียนนุ่มชุ่มชื้น ควรทำอาทิตย์ละ 2 ครั้ง
5 สูตรขัดตัวเพื่อผิวสะอาด ลดความมันส่วนเกิน
สิ่งที่ต้องใช้
- น้ำมะขามเปียก 1/2 ถ้วย
- เกลือป่น 1-2 ช้อนชา
- ถ้าผิวแห้งให้เติม น้ำผึ้ง 1-2 ช้อนชา
วิธีทำ
- นำส่วนผสมทั้ง 2 อย่างมาผสมให้เข้ากัน
- นำมาขัดวน ๆ เป็นวงกลมทั่วทั้งตัว ขัดเบา ๆ นะคะ เดี๋ยวแสบผิว ขัดประมาณ 3-5 นาที แล้วล้างออก
สูตรขัดผิวนี้สามารถทำได้ทั้งตัว ช่วยให้ผิวสะอาด เพราะมะขามเปียกและเกลือช่วยทำความสะอาดรูขุมขน ช่วยให้ผิวขาวใส เรียบเนียน และผิวชุ่มชื้นด้วยค่ะ ควรทำอาทิตย์ละ 2 ครั้ง
วิธีทำน้ำมะขามเปียก
- นำมะขามเปียกแช่กับน้ำอุ่นให้ท่วม แช่ทิ้งไว้ 30 นาที แล้วใช้มือ (ล้างก่อนนะคะ) บีบเอากากใยและเม็ดมะขามออก เหลือไว้แต่เนื้อลักษณะข้น ๆ
เป็นอย่างไรคะ มะขามเปียก สรรพคุณครอบจักรวาลมาก สุขภาพดีและสวยตั้งแต่หัวจรดเท้าเลยทีเดียวค่ะ เนื่องจากมะขามเปียกเป็นวัตถุดิบจากธรรมชาติ ดังนั้นควรทานหรือใช้แต่พอดีในปริมาณที่เหมาะสม และต่อเนื่อง จึงจะเห็นผลดีที่สุดค่ะ
สูตรต่าง ๆ ก่อนนำมาใช้กับผิว พวกตัวเองควรทดสอบการแพ้กับผิวบริเวณที่บอบบางก่อนทุกครั้ง โดยทดสอบกับผิวใต้คาง หรือผิวใต้ท้องแขน ทาทิ้งไว้ 15 นาที ถ้าไม่มีผลข้างเคียงใด ๆ ลุยได้เลยค่ะ แล้วเจอกันใหม่กับ EP ถัดไปนะคะ บายค่ะ
เรื่อง / ภาพ : #AquaLady
Review - รีวิวหนัง The Green Mile ปาฏิหาริย์ แดนประหาร - B2G
วันนี้น้ำมารีวิวหนังเก่าปี พ.ศ. 2542 เรื่อง The Green Mile หรือชื่อภาษาไทยว่า ปาฎิหาริย์ แดนประหาร นำแสดงโดยทอม แฮงค์ The Green Mile ถูกสร้างมาจากหนังสือนิยายของ Stephen King และได้ผู้กำกับมากฝีมืออย่าง Frank Darabont และยังเขียนบทภาพยนตร์เองด้วยค่ะ
ภาพที่ 1
The Green Mile ประสบความสำเร็จอย่างสูง ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลมากมายทั้งรางวัลลูกโลกทองคำ และรางวัลออสการ์ ซึ่งถูกเสนอชื่อเข้าชิงถึง 4 สาขาด้วยกัน แค่ชื่อ Stephen King และ Frank Darabont ก็รับประกันความสนุก ความลึกลับ ความมหัศจรรย์ใจได้แล้วค่ะ ถ้าใครยังไม่ได้ชม The Green Mile ถือโอกาสนี้ลองอ่านเรื่องย่อคร่าว ๆ แล้วลองหาชมกันตามอัธยาศัยได้เลยค่ะ
**** มีการบอกเนื้อหาและจุดสำคัญของหนัง ****
The Green Mile คือชื่อของเรือนจำที่คุมขังนักโทษที่ต้องโทษประหารชีวิตด้วยการนั่งเก้าอี้ไฟฟ้า โดยพอล เอดจ์คอมบ์ (รับบทโดยทอม แฮงค์) เป็นพัศดีมีหน้าที่ดูแลนักโทษที่กำลังรอวาระสุดท้ายของชีวิต
ภาพที่ 2
เจ้าหน้าที่แต่ละคนต่างดูแลนักโทษอย่างเอาใจใส่ และเลี่ยงการทำให้นักโทษเครียด ยกเว้นเจ้าหน้าที่ ที่ชื่อเพอร์ซีย์ เวทมอร์ มีนิสัยก้าวร้าว ชอบอวดเบ่ง ชอบแกล้งและทำร้ายนักโทษ จึงทำให้ไม่เป็นที่รักของเจ้าหน้าที่คนอื่น รวมถึงนักโทษใน The Green Mile ด้วย
ภาพที่ 3
วันหนึ่งมีนักโทษรายใหม่ได้เข้ามายัง Green Mile เป็นผู้ต้องหาผิวดำชื่อว่า จอห์น ค็อฟฟี่ สูง 2.10 เมตร หนัก 400 ปอนด์ ซึ่งก่อคดีสะเทือนขวัญ ฆ่าเด็กหญิงผิวขาว 2 คนพี่น้องด้วยการถลกหนังศีรษะ และพอลพบว่าจอห์น มีนิสัยไม่เข้ากับบุคลิก พูดจาสุภาพ กลัวความมืด มีมารยาท
ภาพที่ 4
หลายวันต่อมา มีนักโทษประหารคนใหม่เข้ามาอีกราย ชื่อว่า ไวล์บิลล์ เป็นนักโทษที่ก่อเหตุตั้งแต่วันแรกที่เดินทางมาถึง โดยไวล์บิลล์แกล้งทำเป็นสติเลอะเลือน เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวเข้าห้องขังอย่างไม่รัดกุมเท่าที่ควร ทำร้ายเจ้าหน้าที่ไปหลายคน และจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ทำให้พอลมีอาการเจ็บที่เป้ากางเกงเนื่องจากโดนกระแทกเข้าเต็มเปา ซึ่งเดิมทีพอลเป็นโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ และมีอาการเจ็บปวดทรมานทุกครั้งที่ปัสสาวะ
ภาพที่ 5
หลังจากเหตุการณ์สงบ พอลได้สั่งให้คนเจ็บไปทำแผลและที่เหลือไปเขียนรายงาน ตัวพอลขออยู่ดูแลนักโทษที่เรือนจำคนเดียว พอทุกคนออกไปหมด พอลถึงกับล้มไปนอนกับพื้นเพราะทนอาการเจ็บปวดไม่ไหวและตั้งใจจะไปหาหมอเพื่อรักษาอาการป่วยของตนอย่างเด็ดขาดในวันนี้ หลังจากผลัดมาหลายครั้ง
จอห์น เรียกพอลเข้าไปหา พอลจึงแข็งใจลุกขึ้นและเดินไปที่หน้าห้องขัง จากนั้นจอห์นดึงกึ่งกระชากพอลเข้าไปประชิดตัวโดยมีเพียงลูกกรงขั้นกลางระหว่างเขา 2 คน และใช้มือจับที่เป้ากางเกง พอลตกใจมากคว้ามือไปที่อาวุธประจำตัว แต่บอกว่าต้องการจะช่วย จากนั้นหลอดไฟในห้องขังของจอห์นก็สว่างวาบขึ้นและแตกไปในที่สุด
จอห์นก็ปล่อยมือ กลับไปนั่งที่เตียงและปล่อยบางอย่างคล้ายแมลงตัวเล็ก ๆ ออกมาจากปาก ล่องลอยในอากาศและหายไปในที่สุด จากนั้นจอห์นก็ล้มตัวลงนอน พอลรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างในตัวของเขา จึงต้องการพิสูจน์โดยการเดินไปปัสสาวะที่ห้องน้ำ เขาพบว่าอาการป่วยของโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบหายไปจนหมด ปัสสาวะลื่นไม่ขัด
พอลเก็บเรื่องราวปาฎิหารย์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ไว้ลำพัง จนวันหนึ่ง เพอร์ซีย์ ได้ทำร้ายหนูซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงของนักโทษอีกรายจนอาการปางตาย แต่จอห์นก็ได้ใช้พลังปาฎิหารย์ ทำให้หนูกลับมามีชีวิตและวิ่งได้เหมือนเดิม สร้างความตื่นตะลึงให้กับคนที่อยู่ในเหตุการณ์มาก
ภาพที่ 6
จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้พอลตัดสินใจพาจอห์นไปรักษาเมลินดา ภรรยาของหัวหน้าพัศดี ซึ่งป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย จนหายดี โดยวางแผนกับเจ้าหน้าที่แต่คราวนี้จอห์นไม่ได้ปล่อยบางสิ่งออกจากปากหลังทำการรักษาเหมือนทุกครั้ง
จอห์นได้ปล่อยสิ่งนั้นเข้าปาก เพอร์ซีย์ ทำให้เพอร์ซีย์คลุ้มคลั่งถือปืนไปยิงไวล์บิลล์จนเสียชีวิตคาห้องขัง พอลไม่เข้าใจกับการกระทำของจอห์น จอห์นจึงขอให้พอลจับมือ และแบ่งพลังวิเศษที่มีอยู่ในตัวให้พอล เพื่อให้พอลเห็นทุกอย่างที่ไวล์บิลล์ทำ ซึ่งจริง ๆ แล้วไวล์บิลล์เป็นคนลงมือฆาตกรรมเด็กหญิงผิวขาว 2 คน จอห์นต้องการจะช่วยเด็กทั้ง 2 แต่ไม่ทัน เพราะเด็กเสียชีวิตมานานเกินไป
ภาพที่ 7
พอลและหัวหน้าพัศดีต้องการจะปล่อยตัวจอห์น พอลรู้ดีว่าจอห์นไม่ได้ทำผิด และรู้ว่าหากปล่อยให้จอห์นตายไป ตนเองจะกลายเป็นคนที่ฆ่าปาฎิหารย์แห่งพระเจ้า แต่จอห์นปฎิเสธข้อเสนอเพราะเบื่อหน่ายกับโลกที่มีแต่ความโหดร้าย มีแต่การฆ่าฟันกันทุกวัน จอห์นรับรู้ได้ถึงคลื่นแห่งความรัก ความโอบอ้อมอารี รวมถึงคลื่นแห่งความเกลียดชัง ความอาฆาต และรู้สึกเหนื่อยกับการกระทำของมนุษย์ จึงขอจากโลกนี้ไปด้วยการนั่งเก้าอี้ไฟฟ้าทำให้พอลและเจ้าหน้าที่คนอื่นเศร้าโศกเสียใจถึงกับหลั่งน้ำตาในขณะที่ปฏิบัติหน้าที่
จากเหตุการณ์วันนั้น จนปัจจุบัน พอลในวัย 108 ปี ใช้ชีวิตที่เหลือเพียงลำพังในบ้านพักคนชรา มีร่างกายที่แข็งแรงผิดกับคนวัยเดียวกัน พอลเลือกที่จะอยู่คนเดียว เพราะคนรอบข้างเสียชีวิตไปหมด พอลไม่ต้องการผูกพันกับใคร ไม่อยากเห็นเพื่อนรักต้องตาย พอลไม่รู้ว่าจะอยู่อย่างโดดเดี่ยวไปอีกกี่สิบ กี่ร้อยปี เพราะหนูที่จอห์นได้ช่วยชีวิตไว้ยังมีชีวิตยาวนานมาถึงบัดนี้ แล้วพอลที่ได้รับการแบ่งเสี้ยวพลังวิเศษจากจอห์นโดยตรงล่ะ จะมีชีวิตไปอีกนานเท่าไหร่ก็ไม่รู้ได้
เรื่องโดย #AquaLady
ขอขอบคุณภาพประกอบบทความ ภาพปก / ภาพที่ 1 - 7 จากเฟซบุ๊ก แฟนเพจ The Green Mile Official
ขอขอบคุณภาพประกอบบทความ ภาพปก / ภาพที่ 1 - 7 จากเฟซบุ๊ก แฟนเพจ The Green Mile Official
Saturday, April 25, 2020
Review - รีวิว Hairpiece วิธีเปลี่ยนลุคให้ตัวเองแบบง่าย ๆ พร้อมวิธีใช้และวิธีเก็บรักษา - B2G
สวัสดีค่ะ มีใครเคยมีปัญหาแบบน้ำบ้างไหมคะ ปัญหาเรื่องทรงผม น้ำเป็นผู้หญิงที่ไม่ชอบหวีผม สระผมเสร็จก็ไม่หวี ใช้นิ้วมือสาง เป่ากับพัดลมหรือไม่ก็ปล่อยให้แห้งเองตามธรรมชาติ ไม่ชอบให้ผมปรกหน้า ชอบมัดผม รวบให้ตึง แต่ชอบให้ตัวเองดูเนี๊ยบทั้งเสื้อผ้า หน้า ผม ความเป็นตัวเองกับความชอบมันช่างย้อนแย้งกันจริงไหม?
วันหนึ่งมีโฆษณา Hairpiece วิ่งผ่านตา เออ ใส่แล้วสวยดี ดูแตกต่าง ดูใส่ง่าย ราคาไม่แพงด้วย คิดในใจว่า “อันนี้แหล่ะ น่าจะเหมาะกับฉัน” ไม่ต้องรอให้โฆษณาวิ่งมาอีกรอบ จิ้มไปที่ปุ่มข้อความของเพจ Con 2 Girl ที่ยิงโฆษณามาหาน้ำค่ะ
น้ำเลยตัดสินใจสั่ง Hairpiece มาลองใส่ 2 แบบ มีแบบไหนบ้างมาดูกันค่ะ
Baby Curve เป็นลอนธรรมชาติ ใส่แล้วออกแนวน่ารักใส ๆ สไตล์นักศึกษา วอลุ่มแค่ตรงปลาย ชิ้นนี้น้ำเลือกเป็นสีน้ำตาลธรรมชาติ เข้ากับสีผมน้ำพอดีเป๊ะ ใส่ออกมาแล้วน้ำชอบมากค่ะ ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นนักศึกษาจบใหม่กำลังไปเริ่มงาน
ภาพที่ 1
Sweet Roll เป็นลอนแฟชั่น ดัดวอลุ่มหนา ๆ ชิ้นนี้น้ำเลือกสีน้ำตาลช็อคโกแลต ไม่เข้ากับสีผมของน้ำเลยค่ะ แต่ใส่ออกมาก็ดูไม่ขัดแต่อย่างใด ใส่แล้วรู้สึกเหมือนพี่ช่า กำลังขึ้นคอนเสิร์ต
ภาพที่ 2
ตอนแรกน้ำเลือกสีน้ำตาลธรรมชาติทั้ง 2 แบบค่ะ แต่เปลี่ยนใจเอาสีน้ำตาลช็อคโกแลตมา 1 ชิ้น เอามาลองว่าสีไหนที่เข้ากับผมของน้ำมากที่สุดค่ะ
ความรู้สึกแรกกับ Hairpiece ของ Con 2 Girl
เส้นไหมของ Hairpiece ที่จับครั้งแรก นุ่ม ไม่เงาเหมือนที่เห็นตามร้านทั่วไป คือดูไม่รู้ว่าเป็นเส้นไหม ดูแล้วเหมือนเส้นผมจริง แพของ Hairpiece เย็บแน่นหนามาก ๆ มีกิ๊บป๊อกแป๊กซึ่งเย็บติดแน่นมาก แถมกิ๊บก็แข็งแรงมีซี่ฟันไว้ล็อคผม อันนี้น้ำชอบเพราะมันเกาะเส้นผมดีมาก ๆ ใส่ครึ่งวันไม่หลุดเลยค่ะ
ภาพที่ 3
วิธีใส่ Hairpiece
- แบ่งผมมัดครึ่งหัว ค่อนไปทางด้านบน
- หยิบ Hairpiece มากะระยะกับหัว โดยเริ่มติดจากฝั่งใดฝั่งหนึ่งก่อน
- คลายกิ๊บตัวริมฝั่งใดฝั่งหนึ่ง แล้วใช้ซี่หวีที่ติดมากับกิ๊บสับลงไปกับผมที่อยู่ด้านล่างของจุกผมที่มัดไว้ แล้วติดกิ๊บ
- ไล่ทำไปทีละตัว ๆ โดยคลายทีตัว ไม่คลายพร้อมกันทีเดียวนะคะ เพราะซี่ฟันที่อยู่กับกิ๊บจะไปทำให้ผมยุ่ง ทำให้ติดลำบาก
- ทำจนถึงตัวสุดท้าย เสร็จแล้วคลายจุกที่มัดไว้ให้ลงมาปิดรอยต่อของแพ Hairpiece
- ถ้าใครที่มีผมที่ม้วนลอนปลาย ๆ อยู่แล้วจะดูกลมกลืนกับ Hairpiece ค่ะ ของน้ำเป็นผมตรง เลยดูขัด ๆ น้ำเลยไม่ปล่อย รวบไว้ครึ่งหัวดูกลมกลืนกว่า
- ถ้าใครไม่อยากรวบ อยากปล่อยและเป็นคนผมตรงเหมือนน้ำ แต่ Hairpiece ที่ซื้อมาเป็นลอน ให้ใช้ที่หนีบผม หนีบปลายผมที่อยู่นอก Hairpiece เป็นช่อ ๆ ให้เป็นลอน จะดูเป็นธรรมชาติมากค่ะ
ภาพที่ 4
คลิปใส่ Hairpiece คลิ๊กที่นี่ ค่ะ
ภาพที่ 5
วิธีถอด Hairpiece
- คลายกิ๊บป๊อกแป๊กออกจากผม โดยคลายทีละตัว ๆ จนไปถึงตัวสุดท้าย
- ดึง Hairpiece ขึ้นทั้งแผงพร้อมกัน
- คลุม Hairpiece ด้วยตาข่ายที่ทางร้านให้มาตอนแรก เก็บใส่ซอง
วิธีดูแลรักษา Hairpiece
- ทำความสะอาดเหมือนสระผมตัวเองค่ะ
- สระด้วยยาสระผมแล้วแช่ครีมนวดผมไว้สักพัก
- ตาก ลมให้แห้งเองตามธรรมชาติ
- ห้ามเป่าร้อน ห้ามตากแดด
Tips เล็ก ๆ น้อย ๆ
- ใส่ Hairpiece กลางหัวค่อนไปทางด้านบนจะดูเป็นธรรมชาติค่ะ ตอนน้ำใส่น้ำมัดผมไว้เหนือหูประมาณ 2 นิ้วค่ะ เวลาปล่อยผมลงมา หรือมัดครึ่งหัวทำให้ Hairpiece กับผมของเราดูเป็นธรรมชาติมาก ๆ ค่ะ
- เลือกสี Hairpiece ให้เข้ากับสีผมของตัวเองจะกลมกลื่นสุด ๆ สำหรับน้ำเหมาะกับสีน้ำตาลธรรมชาติค่ะ เพราะผมน้ำไม่เคยทำสี
- ไม่จำเป็นต้องทำความสะอาด Hairpiece ทุกครั้งที่ใส่ ทำความสะอาดอาทิตย์ละครั้งก็ได้ค่ะ ส่วนตัวน้ำ 15 วันทำความสะอาดทีค่ะ เพราะน้ำใส่ไม่บ่อยเท่าไหร่
- หาก Hairpiece พันกัน ใช้ครีมหมักผม หมัก Hairpiece ทิ้งไว้ 15 นาทีแล้วล้างออก ผึ่งให้แห้ง เส้นไหมที่พันกันจะคลายจากกัน ส่วนตัวน้ำใช้ครีมหมักผมผสมน้ำนิดหน่อยพอขลุกขลิก แล้วใส่หวีซี่ห่างมาก ๆ สางเบา ๆ แล้วแช่ Hairpiece ทิ้งไว้ค่ะ
ใครอยากเปลี่ยนลุคด้วย Hairpiece ลองเข้าไปดูที่เพจ Con 2 Girl เขามีโปรโมชั่น ซื้อ 1 แถม 1 ด้วยนะคะ น้ำก็ซื้อโปรโมชั่นนี้เหมือนกันค่ะ แล้วเจอกันใหม่กับบทความถัดไปนะคะ สวัสดีค่ะ
BeautyDIY - สูตรมากส์หน้าย้อนวัย กลับไปเป็นสาวอายุ 15 อีกครั้ง - B2G
สวัสดีค่ะ เจอกันอีกแล้วกับ Beauty DIY จาก AquaLady วันนี้น้ำมีสูตรพอกหน้ามาฝากค่ะ สูตรนี้มีความพิเศษ (ก็พิเศษทุกสูตร) เพราะช่วยซ่อมแซมผิวที่เสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา ช่วยฟื้นฟูผิวกลับมาเปล่งปลั่งสดใสเหมือนเดิม ด้วยการเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิว และช่วยผลัดเซลล์ผิว ลดฝ้ากระ จุดด่างดำ รอยแผลจากสิว เติมความชุ่มชื้นให้ผิว จึงทำให้ผิวแลดูสุขภาพดี ผิวขาวกระจ่างใส กลับมาดูเด็กอีกครั้ง พร้อมแล้วมาดูวัตถุดิบและวิธีทำไปด้วยค่ะ
สิ่งที่ต้องใช้
- แป้งข้าวจ้าว 1 ช้อนโต๊ะ
- แป้งสาลี 1 ช้อนโต๊ะ
- เจลว่านหางจระเข้ ½ ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันมะพร้าว 1 ช้อนชา
- วิตามินอี 1 แคปซูล ชนิดน้ำมัน
- น้ำกุหลาบ (ใช้หรือไม่ใช้ก็ได้ค่ะ ถ้าไม่มีไม่ต้องใส่ค่ะ)
วิธีทำ
- ผสมทุกอย่างให้เข้ากัน ลักษณะของเนื้อมากส์จะข้น ถ้าข้นมากไปให้เติมน้ำกุหลาบลงไปค่ะ ถ้าไม่มีใช้น้ำเปล่าแทนได้ค่ะ
- ล้างหน้าให้สะอาด เช็ดให้แห้ง ทาเนื้อมากส์ที่ผสมแล้วให้ทั่วใบหน้า นวดวนเป็นวงกลมเบา ๆ 5 นาที
- เมื่อนวดครบ 5 นาทีแล้ว ให้ทาเนื้อมากส์เพิ่มเป็นชั้นหนา แล้วพอกทิ้งไว้ 15 นาที
- เมื่อครบเวลา พรมน้ำให้ทั่วใบหน้า แล้วนวดวนเบา ๆ 1 นาที ล้างออกให้สะอาด
ประโยชน์ของมากส์สูตรย้อนวัย
- แป้งข้าวจ้าว ช่วยผลัดเซลล์ผิว ดูดซับความมันส่วนเกินบนใบหน้า ช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใส ช่วยให้ผิวเต่งตึง
- แป้งสาลี มีสารต้านอนุมูลอิสระ จึงช่วยชะลอริ้วรอย ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด ช่วยเติมความยืดหยุ่นให้กับผิว
- เจลว่านหางจระเข้ ช่วยลดริ้วรอย ลดฝ้ากระ ลดจุดด่างดำ ลดการเกิดสิว ช่วยให้ผิวเนียนเรียบ ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับผิว
- วิตามิน อี ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอย ช่วยลดริ้วรอย จึงช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง ช่วยรักษาแผลเป็นจากสิว ให้ผิวขาวกระจ่างใส
- น้ำมันมะพร้าว ช่วยผลัดเซลล์ผิว ให้ผิวขาวกระจ่างใส ช่วยกักเก็บน้ำและเติมน้ำให้ผิวจึงทำให้ผิวชุ่มชื้นค่ะ ช่วยลดริ้วรอย ฝ้ากระ จุดด่างดำ
ก่อนใช้อย่าลืมทดสอบการแพ้ก่อนนะคะ แล้วเจอกันใหม่กับ Beauty DIY ดี ๆ แบบนี้ได้ที่นี่นะคะ บายค่ะ
เรื่อง / ภาพ โดย #AquaLady
Friday, April 24, 2020
Review - ของกินอะไรใน 7-11 ที่กินแล้วผิวสวย ราคาถูก งบไม่เกิน 100 บาท EP2 - B2G
"วันนี้กินอะไรดี?" หากมีคำถามแบบนี้เกิดขึ้นในหัว หรือเป็นคำถามที่ไม่เคยได้รับคำตอบจากคู่สนทนา แสดงว่าเริ่มเบื่อกับการทานอาหารที่ทำทานเองหรือเบื่ออาหารที่กินเป็นประจำกันแล้วแหละ
ข้าวไข่เจียว ข้าวกะเพราไข่ดาว ข้าวผัด ฯลฯ เบื่อไหมคะกับเมนูแบบนี้ บางทีคิดเมนูมาทั้งวัน ไปถึงร้านสั่งอย่างมั่นใจ ปรากฏไม่อะไรหมดก็เกิดเหตุอะไรสักอย่างที่ไม่ได้กินเมนูที่คิดไว้ จนต้องไปจบที่เมนูแบบกะเพราไข่ดาว เพราะร้านข้าวแกง ร้านอาหารตามสั่ง ตัวเลือกมันมีไม่เยอะจริงไหมคะ
ถ้าต้องกินอาหารแบบเดิมทุกวันต้องเบื่อมากแน่ ๆ และคำถามที่ไม่เคยได้รับคำตอบอย่าง “วันนี้กินอะไรดี” จะกลายเป็นปัญหาระดับชาติของคุณไปทันที หากเป็นอย่างนี้จริงคุณต้องรู้สึกไม่ดีมากใช่ไหมคะ
วันนี้น้ำพาไปหาของกินใน 7-11 ที่ช่วยให้อิ่มท้อง ร่างกายได้ประโยชน์ ในงบไม่เกิน 100 บาท แถมช่วยให้ร่างกายได้รับคอลลาเจนโดยตรงจากอาหารและยังมีสารอาหารที่มีส่วนช่วยให้ร่างกายผลิตคอลลาเจนได้เองอีกด้วยค่ะ มีอะไรบ้าง พร้อมไปดูกันหรือยังคะ? ถ้าพร้อมแล้วไปเลยค่ะ!
เมนูใน 7-11 ของน้ำในวันนี้มี 3 อย่างมานำเสนอค่ะ
- ข้าวห่อสาหร่ายไส้แซลมอนย่างซีอิ๊ว ราคา 27 บาท อิ่มแบบจุก ๆ กับข้าวห่อสาหร่ายแผ่นใหญ่เต็มแผ่น และปลาแซลมอนย่างซีอิ๊ว ก่อนทานที่นึกว่าปลาแซลมอนย่างซีอิ๊วจะเป็นเศษ ๆ อารมณ์เหมือนแซนวิชปลาทูน่า แต่พอกัดไปแล้วปลาแซลมอนเป็นก้อนเลยค่ะ ชิ้นใหญ่มาก ข้าวห่อสาหร่ายไส้ปลาแซลมอนย่างซีอิ๋วมีทั้ง Omega3 / คอลลาเจน / โปรตีน / แป้ง ย่อยง่ายด้วยค่ะ และสะดวกทานได้โดยไม่ต้องอุ่นร้อนเลยนะคะ
- ไข่ตุ๋นไก่สับผักรวม ราคา 19 บาท ในถ้วยมีไก่สับ แครอท ผักชี ต้นหอม พริกไท ใส่ไก่เยอะพอสมควรค่ะ เกือบครึ่งถ้วย ถ้วยนี้มีทั้งโปรตีน / วิตามิน และคอลลาเจน อุ่นร้อน ๆ ซดคล่องคอมากค่ะ
- น้ำเต้าหู้ผสมคอลลาเจน ราคา 13 บาท ถุงนี้ได้โปรตีนจากถั่วเหลืองและคอลลาเจนเต็ม ๆ รสชาติไม่หวานมาก
สรุป มื้อนี้น้ำจ่ายไป 59 บาท อิ่มยันมื้อถัดไปเลยค่ะ ได้สารอาหารครบ 5 หมู่มีคอลลาเจนช่วยบำรุงผิว แถมเมนูไม่จำเจด้วย
หมดปัญหาสำหรับมื้อถัดไปในชั่วโมงเร่งด่วนและในวันที่เพื่อน ๆ คิดไม่ออกว่าจะกินอะไร อิ่มแบบมีคุณภาพ ในราคา 59 บาท หากใครยังไม่มีตัวเลือกสำหรับมื้อถัดไป ลองแวะไป 7-11 หาเมนูที่น้ำแนะนำกันได้เลยค่ะ
ก่อนออกจากบ้าน อย่าลืมหน้ากากและเจลล้างมือติดตัวไปด้วยนะคะ แล้วเจอกันใหม่กับบทความถัดไปค่ะ
เรื่อง / ภาพ โดย #AquaLady
Subscribe to:
Posts (Atom)